หน้าเว็บ

ความสุขที่แท้จริงจากเพศสมรส

ความสุขที่แท้จริงจากเพศสมรส



การพิจารณาตัวเองก่อนการแต่งงาน
          ลองย้อนกลับไปคิดถึงอดีตเมื่อครั้งที่คุณทั้งสองเริ่มรู้จักกัน จนถึงตอนที่คุณตัดสินใจแต่งงานกัน คุณเข้าใจอุปนิสัยที่แท้จริงของคู่แต่งงาน มากน้อยเพียงไรโดยปกติแล้ว คนทั่วไปที่มิไช่คู่แต่งงานมักจะมองการกระทำของผู้อื่นในแง่ ลบ” แต่สำหรับคู่แต่งงานแล้วทั้งคู่จะมองโลกในแง่ บวก” ที่เต็มไปด้วยความสุข ไม่ว่าการกระทำของคู่ตน จะเป็นเช่นไร ทั้งคู่ต่างเห็นดีเห็นงามตามกันเสมอ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ อาจก่อให้เกิดการมองที่ผิดพลาดจากความเป็นจริง และ อาจทำให้ คุณผิดหวังในภายหลังได้ ดังนั้นการมองการกระทำของผู้อื่นไม่ว่า ในแง่ บวก” หรือ ลบ” ก็ดี ถือว่าเป็นการเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง ในกรณีของ คู่แต่งงานนั้นทั้งคู่ต่างมีหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ไม่ไช่สิ่งหน้าตำหนิแต่อย่างใด หากแต่ระวังการหลงเชื่อ แบบไร้เหตุผล ให้พึงระวังอยู่เสมอว่าความรักสามารถทำให้คนตาบอดได้ ซึ่งในที่สุดก็จะพาทั้งคู่ไปพบกับความผิดหวัง
          คู่แต่งงานควรศึกษาอุปนิสัยของกันและกันอย่างละเอียด คุณควรรู้ทั้งข้อดีและข้อเสียของคู่แต่งงานว่าเป็นอย่างไร และคุณยอมรับมันได้แค่ไหน ลองคิดดูว่าคุณพร้อมที่จะเผชิญกับมันอย่างไร ถ้าคุณยอมรับในตัวเขาไม่ได้ทั้งหมดการแต่งงานคงเป็นไปได้ยาก คุณไม่ควรตั้งเงื่อนไข หรือปฎิเสธนิสัยของคู่แต่งงานเพราะลักษณะนิสัยของคนเราเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงไปตลอดชีวิต แต่ทว่านิสัยที่ชอบทำร้ายผู้อื่นหรือทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บอย่างขาดสติ ถือเป็นเรื่องที่เราควรปรับปรุงและแก้ไขอย่างเร่งด่วน


การยอมรับซึ่งกันและกันได้


          เพื่อให้ตัวเองได้รับรู้และเข้าใจคู่แต่งงานอย่างถูกต้องคุณควรเปิดใจแก่กันในระดับใด คุณมั่นใจได้แค่ไหนว่าเขารับความเป็นตัวของคุณได้จริงๆ และคุณสามารถรับความเป็นตัวของเขาได้จริงหรือไม่คุณทั้งสองต่างมีหน้าที่ที่จะแสดงความรู้สึกที่แท้จริงของกันและกันออกมาให้มากที่สุด
ลองถามตัวเองว่าคนที่คุณจะแต่งงานด้วย ได้ผ่านความเห็นชอบจากคนที่คุณรักและนับถือ เช่น พ่อแม่ พี่หรือเพื่อนสนิทแล้วหรือยัง ปฎิกิริยาของพ่อแม่ พี่หรือเพื่อนสนิทแล้วหรือยัง ปฎิกิริยาของครอบครัวเป็นอย่างไร โดยเฉพาะในกรณีที่คู่ถูกต่อต้านจากพ่อแม่ คุณทั้งคู่ตั้งใจจะแก้ปัญหานี้อย่างไร
          การแต่งงานจึงเป็นเรื่องที่คู่รักจะต้องเตรียมปรึกษาหารือและตัดสินใจมากมายบางเรื่องคุณไม่สามารถตัดสินใจโดยลำพังได้คู่แต่งงานจึงควรรับฟังความคิดเห็นของพ่อแม่ทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนที่จะเดินหน้าต่อไป บางครั้งคู่แต่งงานก็เห็นด้วยกับคำแนะนำนั้น บางครั้ง ก็โอนอ่อนผ่อนตาม บ้างก็ต้องจำยอมและบางทีก็ยอมอย่างมีเงื่อนไข อย่างไรเสียก็ต้องจัดการ กันให้เรียบร้อย
          หากเป็นที่ทำงานทุกอย่างอย่างเป็นธุรกิจเมื่อมีการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งไปแล้วสิ่งนั้นถือเป็นข้อยุติ แต่ระหว่างคน 2 คนในครอบครัวมันมิได้เป็นเช่นนั้น ถึงภายนอกจะกำหนดด้วยคำพูดแต่ภายในใจนั้นอาจมีคำถามมากมายซ่อนอยู่ทำให้เราเกิดความไม่พอใจ เสียใจ ไม่สนุก และในที่สุด เมื่อมีเรื่องเพียงเล็กน้อยมากระทบมันก็จะเป็นชนวนจุด ให้ระเบิดออกมา นำไปสู่สภาวะที่ไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้
          ดังนั้นการประนีประนอม การโอนอ่อนผ่อนตามเป็นเรื่องที่ทั้ง 2 ฝ่ายควรกระทำ สิ่งที่สำคัญคือการที่ต่างฝ่ายต่างต้องพยายามเข้าใจซึ่งกันและกันเอาใจเขามาใส่ใจเรามากที่สุด และความรู้สึกไม่พอใจก็จะหมดไป
เวลาที่อยู่ด้วยกัน 2 คน คุณรู้สึกสบายใจหรือไม่?
          เวลาพบกัน คุณรู้สึกปลอดภัย อบอุ่น รู้สึกเป็นตัวของตัวเองหรือรู้สึกสงบหรือไม่คุณอาจค้นพบคำตอบได้จากการสังเกตความรู้สึก ที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้เมื่อถูกกระตุ้นจากเหตุการณ์ภายนอก

ความรู้สึกที่น่ายินดีต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น มิได้เป็นเงื่อนไขสำคัญที่นำเราไปสู่การแต่งงาน มิไช่เกิดจากอารมณ์ชอบหรือเกลียด การแต่งงานไม่ได้เป็นจุดสูงสุดของความรักและไม่ไช่ปลายทางเช่นกันเพราะที่ถูกต้องแล้ว มันเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ชีวิตใหม่ของคน 2 คนต่างหาก

คุณสามารถจัดการกับสิ่งรอบตัวคุณได้หรือไม่
     ในการตัดสินใจแต่งงาน คุณมีเรื่องคาใจหรือปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกบ้างหรือไม่ ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์โดยเฉพาะเรื่องของเพศตรงข้ามควรจะมีการปรับความเข้าใจกันให้เรียบร้อย คุณควรคิดว่าตัวเองมีหน้าที่ที่จะเปิดเผยอดีตและปัจจุบันของคุณทั้งหมดให้กับเขาหรือไม่อย่างไรต่างฝ่ายต่างยังเป็น บุคคลที่มีอิสระ
          ถึงแม้ว่าในตอนนี้ คู่แต่งงานต่างตัดสินใจและตกลงด้วยวาจาว่าจะแต่งงานกันแล้วก็ตาม จงอย่าลืมว่าตัวเองยังเป็น บุคคลที่มีอิสระ” (อย่างน้อยก็ในทางนิตินัย) ที่จะเลือกคนอื่น การประกาศเจตนาว่าจะแต่งงานต่อหน้าพระเจ้า ต่อตัวเอง ต่อคู่แต่งงานหรือต่อสาธารณชนนั้น เป็นเรื่องของพิธีแต่งงาน เพราะฉะนั้นก่อนการตัดสินใจประกาศการแต่งงานจงระวังอย่าผูกมัดตัวเองกับฝ่ายตรงข้ามพูดด้วยคำพูด หรือ พฤติกรรมที่รีบด่วนเกินไป การเริ่มชีวิตแต่งงานด้วยสภาพที่รู้สึกว่ายังมีสิ่งที่ตัวเองยอมรับไม่ได้ หรือยังมีอะไรคาอยู่ในใจนั้น จะกลายเป็นเรื่องที่ต้อง เสียใจ” ไปตลอดชีวิต  จงตัดสินใจแต่งงานด้วยการตัดสินใจที่เป็นอิสระและตนเองต้องการจริงๆ โดยไม่มีอะไรค้างคาใจทั้งสิ้น มีชีวิตอยู่เพื่อความสุขของทุกคนการแต่งงานไม่ไช่เพื่อหลีกหนีความโดดเดี่ยวไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจหรือชีวิตประจำวัน การใช้ชีวิตคู่ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการใช้ชีวิตคนเดียว ในทางกลับกันสำหรับคนที่ไม่สามารถเป็นตัวของตัวเอง โดยเฉพาะด้านจิตใจนั้นชีวิตแต่งงานอาจเป็นเรื่องยากก็ได้ ดังนั้นคนคงไม่แต่งงานเพราะไม่สามารถ เป็นตัวของตัวของตัวเองทางด้านจิตใจ และคงไม่แต่งงานเพื่อความสบาย ในชีวิตเพียงอย่างเดียวเช่นกัน การก้าวเดินไปบนเส้นทางของตัวเอง และด้วยขาของตัวเอง อย่างเข้มแข็งและมั่นคงนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญไม่ว่าจะสำหรับคนโสดหรือคนแต่งงานแล้ว ก่อนที่จะแต่งงาน เรามาลองสำรวจตัวเองอีกครั้งให้มั่นใจ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับพ่อแม่ คู่แต่งงาน หรือเพื่อนฝูงโดยตรงทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของการค้นหา ตนเอง” ในส่วนลึกที่สุดของตัวเอง

          พวกเราเติบโตมาท่ามกลางความรักความอบอุ่นของครอบครัวได้ทำงานในที่ทำงานที่ทำให้ชีวิตสมบูรณ์ มีเวลาแห่งความสุขห้อมล้อมไปด้วยเพื่อนฝูง มีชีวิตมาได้ด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันของผู้คนมากหน้าหลายตา แต่ถ้าลองคิดดูดีๆ ไม่ว่าใครก็คงจะรู้สึกถึง ตัวตนที่เกิดมาเพียงลำพัง ใช้ชีวิตคนเดียวและตายอย่างโดดเดี่ยว” ไม่ว่าคุณจะมีพ่อแม่ คุ่แต่งงาน คนที่เจตนาดีกับคุณ หรือคนที่รักคุณมากมายเท่าใดก็ตาม คุณก็คงไม่สามารถปฏิเสธหรือหลีกหนีความเป็นจริงที่ว่า เราเป็นตัวเราเอง” ได้ ถึงจะแต่งงานไปแล้วก็ตาม ความเป็นตัวเราเอง” ก็ไม่ได้หายไป เพราะมันเป็นเนื้อแท้ของความเป็นมนุษย์



อ้างอิง : สุวชัย อินทรประเสริฐ. (2535). การวางแผนครอบครัวประชากรและเทคโนโลยีการคุมกำเนิด. กรุงเทพมหานคร:สำนักพิมพ์ข้าวฟ่าง.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น